ธงชาติออสเตรียและอิตาลีกับการกลับมาปรองดรองกันอีกครั้ง |
…ต่อ กรณีการทำสนธิสัญญานี้มีเรื่องที่น่าสนใจแทรกอยู่
กล่าวคือเมื่อตอนที่เกิดสัญญาพันธไมตรีสองประเทศ ค.ศ.
1879
เชื่อมความสัมพันธ์สองประเทศคือเยอรมนนีและออสเตรีย อันเป็นสนธิสัญญาลับนั้น
ปรากฏว่าเมื่อถึงปี 1882
ก็มีการเจรจาขยายให้สนธิสัญญาฉบับนี้ให้กลายเป็นสนธิสัญญาพันธไมตรีไตรมิตรขึ้นมา
โดยไตรมิตรนี้ก็คือการเพิ่มหรือยอมรับเอาอิตาลีเข้ามาร่วมลงนามอีกประเทศหนึ่งนั่นเอง
โดยมีการลงนามกันในเดือนพฤษภาคม 1882**
เงื่อนไขอย่างย่อของสัญญามีดังนี้
1.ในกรณีที่อิตาลีถูกฝรั่งเศสโจมตี
เยอรมนีและออสเตรีย-ฮังการี
จะต้องช่วยอิตาลีและในกรณีที่เยอรมนีถูกฝรั่งเศสโจมตีอิตาลีจะต้องช่วยเยอรมนี
2.ในกรณีที่ภาคีหนึ่งหรือสองประเทศแห่งสัญญานี้ถูกประเทศนอกภาคีประเทศใดก็ตามรวมสองประเทศขึ้นไปทำการโจมตี
ภาคีหนึ่งหรือสองประเทศที่เหลืออยู่ตามสัญญานี้จะต้องเข้าช่วย
สัญญาลับนี้มีอายุ 5 ปี
มีการต่ออายุและเปลี่ยนแปลงแก้ไขในบางประเด็นในปี 1887
และมีการต่ออายุเป็นครั้งคราวเรื่อยมาจนกระทั่งถึงสงครามโลกครั้งที่ 1
สัญญานี้จึงได้เลิกร้างไป โดยอิตาลีปฏิเสธไม่ยอมร่วมกับเยอรมนีและออสเตรีย
เพราะอิตาลีอ้างว่าฝรั่งเศสไม่ได้เป็นฝ่ายรุกราน
แผนที่แสดงที่ตั้งของอิตาลีและตูนิส ว่าใกล้กันแค่ไหน |
**การรวมเอาอิตาลีเข้ามาเป็นอีกหนึ่งประเทศนั้น
ในเวลานั้นถือว่าเป็นเรื่องที่แปลกมากทั้งนี้เพราะอิตาลีกับออสเตรียนั้นนับเป็นคู่แค้นกันมาอย่างยาวนานในหน้าประวัติศาสตร์ไม่น่าจะสามารถรวมเข้ากันได้
แต่ก็เกิดขึ้นมาแล้ว
การที่สามารถเข้าร่วมเป็นไตรมิตรได้นั้นก็เพราะเหตุผลที่ซับซ้อนซึ่งพอจะสรุปอย่งาย่อได้ดังนี้
ในการประชุมคองเกรสแห่งเบอร์ลิน ค.ศ. 1878 นั้นฝรั่งเศสโกรธว่าอังกฤษได้เกาะไซปรัสไป
ทำให้บิสมาร์คและรัฐมนตรีต่างประเทศของอังกฤษต้องเอาใจฝรั่งเศสโดยการสนับสนุนให้ฝรั่งเศสยึดเอาตูนิสซึ่งเวลานั้นอยู่ใต้อำนาจตุรกี
เหตุการณ์นี้ทำให้อิตาลีตกใจอย่างมาก
ทั้งนี้เพราะตูนิสตั้งอยู่ทางฝั่งเหนือของทวีปแอฟริกาตรงข้ามกับอิตาลีพอดี
ดังนั้นหากฝ่ายที่ครองตูนิสไม่พอใจอิตาลีก็สามารถโจมตีอิตาลีได้สะดวกทันที
ดังนั้นเมื่อฝรั่งเศสเข้ายึดครองตูนิสอิตาลีจึงหันเข้าไปสร้างความสัมพันธ์กับเยอรมนีทันที
บิสมาร์คจึงฉวยโอกาสนี้แนะให้อิตาลีปรองดองกับออสเตรีย
ทำให้เกิดสนธิสัญญาพันธไมตรีไตรมิตรขึ้นในที่สุด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น