…ต่อ จุดแตกหักเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 1914 เมื่อ **อาร์ค
ดยุคฟรานซ์ เฟอร์ดินานด์ (Archduke Franz Ferdinand) มกุฎราชกุมารแห่งออสเตรีย
– ฮังการี และพระชายาถูกลอบปลงพระชนม์ที่เมืองซาราเจโวในแคว้นบอสเนีย
โดยนักศึกษาชาตินิยมชาวเซอร์เบีย ชื่อ กัฟริโล ปรินชิบ (Gavrilo Princip)
รัฐบาลออสเตรีย – ฮังการี จึงตัดสินใจจะทำลายล้างเซอร์เบียให้ราบคาบ
และเมื่อได้รับแรงสนับสนุนจากเยอรมนี จึงยื่นข้อเรียกร้องที่เซอร์เบียไม่อาจยอมรับได้
ออสเตรีย - ฮังการี จึงตัดสินใจจะทำลายล้างเซอร์เบียให้ราบคาบ
และเมื่อได้รับแรงสนับสนุนจากเยอรมนี
จึงยื่นข้อเรียกร้องที่เซอร์เบียไม่อาจจะยอมรับได้ ออสเตรีย-ฮังการีจึงประกาศสงครามกับเซอร์เบีย
รัสเซียได้เข้าสนับสนุนเซอร์เบียและระดมพลเตรียมต่อสู้
เยอรมนีจึงได้เรียกร้องมิให้รัสเซียและฝรั่งเศสเข้ามาแทรกแซง
ครั้นสองมหาอำนาจไม่ปฏิบัติตาม เยอรมนีจึงประกาศสงครามกับรัสเซียในวันที่ 1 สิงหาคม 1914
และฝรั่งเศสในวันที่ 3 สิงหาคม 1914 ตามลำดับ
และเพื่อให้มองเห็นภาพความขัดแย้งก่อนสงครามที่ปะทุขึ้นมาของสงครามโลกครั้งที่
1
เราจำเป็นต้องย้อนกลับไปดูถึงสภาพความตึงเครียดของการเมืองระหว่างประเทศในยุโรปในช่วงเวลาดังกล่าวกันเสียก่อน
กล่าวกันว่าในขณะที่ประเทศในยุโรปเวลานั้นต่างเผชิญหน้ากับความตึงเครียดภายในประเทศอยู่แล้ว
ความแตกแยกในระดับชาติระหว่างประเทศก็เกิดขึ้นเรื่อยๆ
แม้มีความพยายามที่จะให้หรือจัดให้มีการเจรจาทางการฑูตเพื่อหาทางออกให้กับปัญหาจนเกิดสนธิสัญญาต่างๆ
มากมายก็ตามทีกระนั้นด้วยวิกฤตการณ์ทางการทูตที่เกิดขึ้นหลายครั้ง แลพการแก้ปัญหาในต่ละครั้งก็ได้แค่เพียงทำให้รอดพ้นจากการการทำสงครามอย่างหวุดหวิดไปเท่านั้นหากแต่สิ่งที่เกิดขึ้นเหล่านั้นยังส่งผลให้เกิดการสะสมความระแวงและความแค้นจนในที่สุดก็นำมาสู่การเกิดวิกฤตการณ์ที่ส่งผลให้ทุกฝ่ายต่างต้องเดินเข้าไปสู่ความพินาศในที่สุด---
**อาร์คดยุคฟรานซ์
เฟอร์ดินานด์แห่งออสเตรีย มีพระนามเต็มว่าฟรานซ์ เฟอร์ดินานด์ คาร์ล ลุดวิก โจเซฟ (Franz
Ferdinand Karl Ludwig Joseph von Habsburg-Lothringen)
ทรงเป็นโอรสของอาร์คดยุค ลุดวิก
อาร์คยุคคาร์ล ลุดดวิก
ทรงเป็นประพระโอรส และพระราชบุตรองค์ที่ 3 ในอาร์คดยุคฟรานซ์ คาร์ลแห่งออสเตรีย (พระราชโอรสในสมเด็จพระจักรพรรดิฟรานซ์ที่
2 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์) และเจ้าหญิงแห่งโซฟีแห่งบาวาเรีย
เมื่อทรงพระเยาว์ อาร์คดยุคฟรานซ์ โจเซฟ
พระเชษฐาของพระองค์ได้ทรงขึ้นครองราชย์เป็นสมเด็จพระจักรพรรดิแห่งออสเตรีย
ทำให้พระองค์ทรงเป็นรัชทายาทอันดับที่ 1 แห่งจักรวรรดิออสเตรีย (อาร์คดยุคเฟอร์ดินานด์
แม็กซีมีเลียน พระเชษฐาไม่ดืทรงอยู่ในลำดับการสืบสันตติวงศ์
เพราะว่าทรงไปเป็นสมพระจักรพรรดิแห่งเม็กซิโก)
แต่เมื่ออาร์คดยุคครูดอล์ฟ พระราชโอรสในสมเด็จพระจักรรพรรดิฟรานซ์
โจเซฟได้ทรงประสูติ พระองค์ก็ทรงถูกเลื่อนไปอยู่ในลำดับ 2
ในลำดับการสืบสันตติวงศ์ แต่เมื่ออาร์คดยุคครูดอล์ฟ
ได้ทรงสิ้นพระชนม์กะทันหันด้วยพระแสงปืนทำให้พระองค์ได้ทรงถูกเลื่อนมาอยู่ในลำดับที่
1 อีกครั้ง
แต่พระองค์ได้ทรงปฏิเสธที่จะรับตำแหน่งองค์รัชทายาทแห่งจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี
โดยพระองค์ได้ทรงมอบตำแหน่งองค์รัชทายาทให้กับพระโอรสองค์โตของพรองค์
อาร์คยุคฟรานซ์ เฟอร์ดินานด์ ดังนั้นอาร์คดบยุคฟรานซ์
เฟอร์ดินานด์ก็ทรงดำรงตำแหน่งองค์รัชทายาทตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา
อาร์คดยุคฟรานซ์
เฟอร์ดินานด์ ทรเป็นอาร์คยุคแห่งออสเตรีย-เอสต์ ประมุขแห่งพระราชอิสริยยศออสเตรีย-เอสต์
ทรงเป็นเจ้าฟ้าชายแห่งฮังการีและโบฮีเมีย และองค์รัชทายาทแห่งจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการีอีกด้วย โดยพระองค์ทรงเป็นองค์รัชทายาททางพฤตินัย ไม่มีการสถาปนาอย่างเป็นทางการพระองค์ทรงเป็นองค์รัชทายาทจวบจนกระทั่งสิ้นพระชนม์กะทันหัน
โดยถูกลอบปลงประชนม์โดยนักอนุรักษ์ชาติชาวเซอร์เบีย
ที่เมืองซาราเจโวประเทศบอสเนียและเฮอร์เซโกวินาซึ่งขณะนั้น
ยังเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการีอยู่
หลังจากพระองค์และพระชายาถูกลอบปลงพระชนม์นั้น ทำให้ออสเตรีย-ฮังการี
ประกาศสงครามกับเซอร์เบียในสงครามโลกครั้งที่ 1 ทันที
ตอนหน้าจะเป็นวิกฤตการณ์สุดท้ายของภาคนี้นั้นคือ วิกฤตการณ์ซาราเจโว
แล้วเราจะได้เข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 1 เสียที
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น